สมุนไพรไทย
แนวความคิดและความเป็นมาของยาสมุนไพร
การใช้ยาสมุนไพรที่ได้นำมาศึกษานี้ เกิดขึ้นภายหลังจากการประชุมระดับนานาชาติ ว่าด้วยเรื่องการวิจัยและพัฒนาจากยาสมุนไพรเพื่อผู้ป่วยเอดส์ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการประชุมดังกล่าว ผู้วิจัยทราบว่ายาสูตรดังกล่าว ผู้ปรุงยาใช้พืชสมุนไพรรวม 11 ชนิด บดเป็นผงบรรจุแคปซูลขนาด 450 มิลลิกรัม ผ่านกรรมวิธีการทดสอบฤทธิ์ของยาในการฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นพาหะของโรคหลายชนิด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีแพทย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ร่วมศึกษาวิจัยยาสูตรนี้ นำยาไปใช้รักษาผู้ป่วยเอดส์ได้ผลดีมาก่อน ผู้คิดค้นสูตรยาได้ โดยผู้คิดค้นสูตรยาขอรับสิทธิ์เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคร้ายแรง เช่น โรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ โรคมะเร็งบางชนิด โรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจและโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากเชื้อราบางประเภท เป็นต้น
พืชสมุนไพรเป็นพืชที่ใช้เป็นทั้งอาหารและยาคู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่อดีตกาล หาง่าย และราคาถูก หากสามารถนำมาใช้ทดแทนยาต้านไวรัส และยารักษาจำเพาะโรคบางชนิดที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันเสื่อมเนื่องจากโรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ จะสามารถเพิ่มโอกาสในการบำบัดรักษาให้ผู้เจ็บป่วยเหล่านั้นได้กลับสู่ภาวะปกติ อีกทั้งจะเป็นการประหยัดเงินตราในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง
ปัญหาเรื่องค่ายามีราคาสูง จึงเป็นปัญหาต่อการบำบัดรักษาผู้ป่วยคนไทย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็น ผู้มีรายได้น้อย ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ส่วนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังไม่ทราบชะตากรรมว่า จะรักษาตัวเองอย่างไร ทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่คู่สมรส หรืบุคคลอื่นๆต่อไปอีก และส่งผลให้เกิด ปัญหาทางสังคมตามมา เพื่อเป็นการหาทางช่วยเหลือหรือเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ในการบำบัดรักษา วงการเภสัชกรรมทั้งไทยและต่างประเทศจึงระดมการวิจัยเพื่อพัฒนายาจากสมุนไพร สำหรับใช้ทดแทนยาต้านไวรัสทางวิทยาศาสตร์และยารักษาจำเพาะโรคอย่างรีบเร่งและต่อเนื่อง เนื่องจาก มีการกระจายของโรคร้ายดังกล่าวออกไปทุกประเทศทั่วโลก จนสามารถเรียกได้ว่า“โรคเอดส์คือมหันตภัยของโลก” และทุกประเทศทั่วโลกต้องการยารักษาโรคดังกล่าว
1. การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดชื่อเรื่องว่า “ การศึกษาเบื้องต้นในการใช้ยาสมุนไพรไทยต่อผู้ป่วยเอดส์ที่เป็นทหารและครอบครัว”
2. ยาสมุนไพรได้ทำการศึกษาและพัฒนามาเป็นเวลากว่า 5 ปี และได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในการรักษาโรคร้ายแรงหลายชนิดด้วยยาสมุนไพรผสมสูตรนี้ เช่น โรคมะเร็ง โรคไวรัสตับอักเสบเอ/บี โรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ และโรคในระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยโรคติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์นั้น เมื่อร่างกายผู้ป่วยมีเม็ดเลือดขาวชนิดซีดี 4 ต่ำกว่า 200 เซลส์/ไมโครลิตร จะทำให้ผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อฉวยโอกาสได้ถึง 25 ชนิด เช่นโรคพุพอง เป็นตุ่ม จุดกระจายตามผิวหนัง โรคซีเอมวี ทำให้นัยน์ตาพร่ามัว ถึงขั้นมองไม่เห็น โรคในระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งบางชนิด
การค้นคิดและพัฒนา เพื่อให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคได้หลายๆชนิดในเวลาเดียวกัน เนื่องจากคณะวิจัยได้เล็งเห็นว่า มีพืชสมุนไพรไทยหลายชนิดที่มีคุณสมบัติเป็นทั้ง สารแอนตี้ออกซิแดนท์(Antioxidant activity) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียที่เป็นตัวก่อโรคอยู่ในพืชชนิดเดียวกัน จากการศึกษาวิจัยจึงคัดเลือกพืชที่มีสรรพคุณทางยาสูงไว้ 11 ชนิด ด้วยคิดว่าพืชสมุนไพรเหล่านั้น จะมีสรรพคุณส่งเสริมหรือสนับสนุนซึ่งกันและกันในการต้านเชื้อโรคต่างๆและปรับสมดุลในร่างกายผู้ป่วย
|